1

 

2

3

4

55

6

7

8

9

10

11

ขั้นตอนการจัดตั้งสหกรณ์นิคม

 

ขั้นที่ 1 . ขอคำแนะนำจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัด     

คณะบุคคลซึ่งประสงค์จะจัดตั้งสหกรณ์ควรมีตัวแทนในการประสานงานกับสหกรณ์จังหวัด  เพื่อให้ได้แนวคิดว่าควรจัดตั้งสหกรณ์หรือไม่ และควรเป็นสหกรณ์ประเภทใด พร้อมคำแนะนำการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ด้วย
***ติดต่อขอคำแนะนำจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ได้ทั่วประเทศ***

ขั้นที่ 2 . ประชุมผู้ซึ่งประสงค์จะเป็นสมาชิก

     ผู้ประสานงานในขั้นที่ 1 ต้องจัดประชุมผู้ซึ่งประสงค์จะเป็นสมาชิกของสหกรณ์ โดยมีวาระการประชุมดังนี้

  1. คัดเลือกคณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ไม่น้อยกว่า 10 คน (ไม่ควรมากกว่า 15 คน)
  2. ให้การศึกษาอบรม เรื่องอุดมการณ์ หลักการ วิธีการสหกรณ์ วิธีการทำธุรกิจ
  3. เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภท และวัตถุประสงค์,แผนดำเนินธุรกิจ หรือกิจกรรมของสหกรณ์
  4. เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่างข้อบังคับสหกรณ์

***เชิญสหกรณ์จังหวัดหรือตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงด้วย***

ขั้นที่ 3 . ประชุมคณะผู้จัดตั้งสหกรณ์

     คณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ ซึ่งได้รับคัดเลือกจากขั้นที่ 2 ประชุมโดยมีวาระการประชุม ดังนี้

  1. เลือกประเภทสหกรณ์ และกำหนดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
  2. กำหนดระยะเวลาในการรวบรวมใบสมัครสมาชิก เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อสมาชิก
  3. กำหนดแผนการดำเนินธุรกิจหรือกิจกรรมของสหกรณ์ และควรให้มีผู้รับผิดชอบในการจัดทำแผน
  4. พิจารณาร่างข้อบังคับสหกรณ์เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ซึ่งจะเป็นสมาชิกพิจารณา

***เชิญสหกรณ์สหกรณ์จังหวัดหรือ ตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงด้วย***

ขั้นที่ 4 . ประชุมผู้ซึ่งจะเป็นสมาชิก 

     เมื่อคณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ดำเนินการตามขั้นที่ 3 เสร็จแล้ว ต้องประชุมผู้ซึ่งจะเป็นสมาชิกสหกรณ์ โดยมีวาระการประชุมดังนี้

  1. พิจารณากำหนดข้อบังคับของสหกรณ์
  2. แจ้งประเภทของสหกรณ์ที่ได้เลือก รวมทั้งวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
  3. แจ้งแผนดำเนินธุรกิจ หรือกิจกรรมของสหกรณ์

***เชิญสหกรณ์จังหวัดหรือตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงด้วย***
***เชิญหัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ หรือตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงด้วย***

ขั้นที่ 5 . ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสหกรณ์

     คณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ต้องจัดทำเอกสารต่าง ๆ และยื่นขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสหกรณ์ โดยยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานสหกรณ์อำเภอ หรือสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่เอกสารที่จะยื่นประกอบด้วย

  1. คำขอจดทะเบียนที่คณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ได้ลงลายมือชื่อแล้ว
  2. สำเนารายงานการประชุม ครั้งละ 2 ชุด คือ

       การประชุมผู้ซึ่งประสงค์จะเป็นสมาชิกของสหกรณ์ (ตามขั้นที่ 2)

       การประชุมผู้ซึ่งจะเป็นสมาชิกสหกรณ์ (ตามขั้นที่ 4)

  1. แผนดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจ หรือกิจกรรมจำนวน 2 ชุด
  2. บัญชีรายชื่อผู้ซึ่งจะเป็นสมาชิก พร้อมลายมือชื่อและจำนวนหุ้นที่จะถือ จำนวน 2 ชุด

***ข้อบังคับตัวจริง 4 ฉบับ และสำเนา 6***

พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์

พระราชกฤษฏีกา

จัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือในรูปสหกรณ์

ในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดธนบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ  พ.ศ. 2500

*******

ภูมิพลอดุลยเดช ป .ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ 19 กรกฎาคม พ .ศ . 2500

เป็นปีที่ 12 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า    

โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือในรูปสหกรณ์ ในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดธนบุรี และ จังหวัดสมุทรปราการ  

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา  95  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพพุทธศักราช 2485  จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้  ดังต่อไปนี้

                      มาตรา 1   พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า  “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือในรูปสหกรณ์ ในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดธนบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. 2500”

                      มาตรา 2   พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                      มาตรา 3  ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมเกลือในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดธนบุรี   พุทธศักราช 2485

                      มาตรา 4 ให้จัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือในรูปสหกรณ์ ในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดธนบุรี และ จังหวัดสมุทรปราการ ภายในแนวเขตที่ดินตามแผนที่ท้ายพระราช

                    กฤษฎีกานี้ ซึ่งคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ได้อนุมัติไห้สงวนไว้แล้วตามความในมาตรา 20 (4)  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

                      มาตรา 5   ให้อธิบดีกรมสหกรณ์ที่ดินเป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจดำเนินการจัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือนี้               

                      มาตรา 6  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์มีอำนาจแต่งตั้งไม่น้อยกว่า 3 คนเพื่อพิจารณาสอบสวน คัดเลือกบุคคลเข้าครอบครองที่ดินเพื่อเป็นสมาชิกในรูปสหกรณ์

                                    จนกว่าสหกรณ์นั้นจะได้จดทะเบียนตามกฎหมาย ว่าด้วยสหกรณ์แล้ว

                      มาตรา 7  บุคคลที่จะเข้าครอบครองที่ดินเพื่อเป็นสมาชิกในสหกรณ์นิคมกสิกรรมต้อง

                                   (ก)  มีสัญชาติไทย

                                   (ข)  มีอายุไม่ต่ำกว่า  20  ปี

                                   (ค) ไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ  วิกลจริต  หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

                       มาตรา 8  บุคคลที่จะเข้าครอบครองที่ดินเพื่อเป็นสมาชิกในสหกรณ์นิคมเกลือต้อง

                                  (ก)  มีคุณสมบัติตามมาตรา 7 (ก) (ข) (ค) และ (ฉ)

                                  (ข)  เคยทำนาเกลือมาแล้ว

                                  (ค)  ไม่มีนาเกลือของตนเอง  หรือมีอยู่แล้วเป็นจำนวนเล็กน้อยไม่พอทำกิน

                      มาตรา 9 ให้อธิบดีกรมสหกรณ์ที่ดินมีอำนาจอนุญาตให้สมาชิกในสหกรณ์เข้าครอบครองทำประโยชน์  ในที่ดินตามมาตรา 4 ตามกำลังแห่งครอบครัวของสมาชิกนั้นไม่เกินรายละ 50 ไร่

                      มาตรา 10 ให้เรียกเก็บเงินเพื่อช่วยทุนที่รัฐบาลได้ลงไปจากสมาชิกซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินนั้น ในอัตราซึ่งอธิดีกรมสหกรณ์ที่ดินจะได้กำหนดไม่เกินไร่ละ 50 บาท โดยผ่อนชำระเป็นรายปี  ปีหนึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละสิบ และต้องเริ่มต้นชำระงวดแรกอย่างช้าในปีที่ 5  นับแต่ปีที่ได้เข้าเป็นสมาชิก ถ้าปีใด ไม่สามารถชำระได้ภายในกำหนดโดยมีเหตุผลอันสมควรอธิบดีกรมสหกรณ์ที่ดินจะผ่อนผันให้ชำระในปีถัดไปก็ได้

                      มาตรา  11  เมื่อสมาชิกทั้งหมดของสหกรณ์ใดในนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือตามพระราชกฤษฎีกานี้  ได้ทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้เข้าครอบครองเต็มเนื้อที่แล้ว และ ได้ชำระเงินช่วยทุนที่รัฐบาลได้ลงไปตามความในมาตรา 10  เสร็จสิ้น  ทั้งได้ชำระหนี้ เงินกู้ประเภทระยะเวลายาวซึ่งได้กู้ไปจากสหกรณ์ครบถ้วนแล้ว สมาชิก แต่ละคนมีสิทธิขอหนังสือตามความในมาตรา  7 แห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ  พุทธศักราช  2485  จากอธิบดีกรมสหกรณ์ที่ดิน

                      มาตรา  12  พระราชกฤษฎีกานี้ไม่กระทบกระทั่งสิทธิในการครอบครองที่ดินของสมาชิกสหกรณ์นิคมกสิกรรมและนิคมเกลือซึ่งได้จดทะเบียนก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้   ใช้บังคับ

                      มาตรา  13  เมื่อสมาชิกทั้งหมดของสหกรณ์ใดในนิคมเกลือตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมเกลือใน จังหวัดสมุทรสาคร  และจังหวัดธนบุรี  พุทธศักราช  2485  ได้ทำประโยชน์ในที่ดินได้ครอบครองเต็มเนื้อที่แล้ว และได้ชำระเงินช่วยทุนที่รัฐบาลได้ลงไป ทั้งได้ชำระหนี้เงินกู้ประเภทระยะเวลายาวซึ่งได้กู้ไปจากสหกรณ์ครบถ้วนแล้ว  ตามความในมาตรา  9  แห่งพระราชกฤษฎีกานั้นแล้วให้มีสิทธิตามมาตรา  11  แห่งพระราชกฤษฎีกานี้

                      มาตรา  14  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

     

                                                                                          ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

                                                                                              จอมพล  ป.  พิบูลสงคราม

                                                                                                    นายกรัฐมนตรี

                                                                                               --------------------------------

หมายเหตุ   เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้  คือ  เนื่องจากที่ดินที่จัดตั้งสหกรณ์นิคมเกลือซึ่งกรมสหกรณ์  (เดิม)  ได้ดำเนินการจัดตั้งขึ้น  ตามความในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมเกลือในจังหวัดสมุทรสาคร  และจังหวัดธนบุรี  พ.ศ.  2485  มีอาณาเขตติดต่อเป็นผืนเดียวกับที่ดินที่กระทรวงการคลังได้เคยหวงห้ามไว้  บางตอนมีคุณภาพเหมาะสมแก่การกสิกรรม  และบางตอนก็เหมาะสมแก่การทำนาเกลือ  สมควรดำเนินการจัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือในรูปสหกรณ์ขึ้นโดยตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมกสิกรรมและนิคมเกลือในรูปสหกรณ์  ในจังหวัดสมุทรสาคร  จังหวัดธนบุรี  และจังหวัดสมุทรปราการ  พ.ศ.  2500 


(คัดจากราชกิจจานุเบกษา  เล่ม  74  ตอนที่  66  วันที่  6  สิงหาคม  2500  หน้า  1200)

12

 

 

ภาพข่าวและกิจกรรม

วันที่ 14 – 31 มีนาคม 2565 นายมานะ อ่อนนุ่ม สหกรณ์จังหวัดสมุทรสาคร มอบหมายให้นายพรเทพ เสียงไพเราะ ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์บ้านไร่ เข้าร่วมประชุมกลุ่มสมาชิกสหกรณ์นิคมสมุทรสาคร จำกัด โดยแนะนำ ส่งเสริมเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสหกรณ์ หลักการ อุดมการณ์และวิธีการสหกรณ์ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์ พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ จากที่ประชุมกลุ่ม

 

13

 

  d03d850e6a0858027f99bd8a16eb5969439cfd7d